สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศ วันนี้ (15 พ.ค.) รวม 2 ครั้ง ปิดตลาดลดลง 150 บาท จากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ทำให้ราคาทองในต่างประเทศขยับลง แม้ค่าเงินบาทจะทรงตัว
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 32,150.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 32,250.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 31,578.28บาท/บาททองคำ และขายออก 32,750.00 บาท/บาททองคำ
ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 2,017.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 33.75 บาท/ดอลลาร์
ราคาทองฟิวเจอร์แกว่งตัวเหนือ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองในตลาดต่างประเทศขยับลงเล็กน้อยในการซื้อขายในตลาดเอเชีย โดยนักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยและธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้โยกเงินซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินดอลลาร์แทนทองคำ
นักลงทุนรอนายเจอโรม พาวเวล์ ประธานเฟด จะกล่าวในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟดในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้
ทองสปอตเคลื่อนไหวที่ระดับ 2,010 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาทองฟิวเจอร์ ลดลงเล็กน้อย เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,016 ดอลลาร์/ออนซ์
ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง มองว่าราคาทองต้องติดตาม3 ประเด็นในสัปดาห์นี้ โดยสัปดาห์ก่อนราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 จากแรงเทขายทำกำไร รวมถึงถูกกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังมีปัจจัยหนุนจากปัญหาการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ ซึ่งในสัปดาห์นี้ประเด็นแรกที่ต้องติดตาม คือ การหารือรอบ 2 ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในสัปดาห์นี้ จากเดิมที่เคยมีการหารือกันครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป จนต้องเลื่อนการหารือเจรจาเพดานหนี้อีกครั้งไปในวันศุกร์ แต่สุดท้ายแล้วก็ได้มีการเลื่อนการหารือออกไปอีกครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนได้ติดภาระกิจส่วนตัว อีกทั้งยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน
ทองวันนี้ "ลง 100 บาท" ต่างประเทศเจอแรงเทเขายทำกำไร
คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ ซื้อขายในกรอบ 33.50-34.20 ผันผวนตามสูตรตั้งรัฐบาล
ราคาทองตลาดสปอตในตลาดเอเชีย
คาดว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งสหรัฐมีความจำเป็นที่ต้องเร่งเรียกร้องสภาคองเกรสให้อนุมัติร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้อย่างมากก่อนสิ้นเดือนนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ที่จะนำไปสู่ความหายนะของเศรษฐกิจสหรัฐ และนำไปสู่สหรัฐอาจโดยปรับลดอันดับเครดิต ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐลดลง ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า กระทบต่อมูลค่าและสถานะของสกุลเงินสำรองของโลก เนื่องจากเงินสำรองเงินตราต่างประเทศส่วนใหญ่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกว่า 60% รองลงมาจะเป็นสกุลเงินยูโรกว่า 20% ซึ่งหากดอลลาร์ด้อยค่าลง ทำให้มูลค่าเงินสำรองจะลดลงไปด้วย จึงอาจทำให้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บางประเทศเข้าสู่วิกฤตหนี้ได้
ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐลดลง ยังทำให้นักลงทุนเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นผู้ที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่ที่สุด หลังจากที่ปี 2557 ที่จีนเริ่มมีการทยอยขายพันธบัตรสหรัฐออกมาเรื่อยๆ แต่ญี่ปุ่นกลับเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐ จนญี่ปุ่นแซงหน้าจีนตอนนี้ ปัญหาเพิ่มเพดานหนี้ยังคงนับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก ส่งผลให้สหรัฐถูกตั้งคำถามประเด็นวิกฤตเพดานหนี้สหรัฐในการประชุม G7 หลังการประชุมเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์ก่อน
จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ขณะที่ได้มีการหารือเกี่ยวกับการปกป้องเสถียรภาพทางการเงินจากวิกฤตธนาคาร แม้ว่ายังคงเน้นย้ำระบบการเงินมีความแข็งแกร่ง และการหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกรัสเซีย โดยล่าสุดพุ่งไปที่การคว่ำบาตรอุตสาหกรรมเพชรของรัสเซีย จึงต้องติดตามการประชุม G7 ในสัปดาห์นี้อีกเช่นกัน เนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังมีความต้องการที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ในวันที่ 19-21 พ.คคำพูดจาก สล็อตออนไลน์. ตามแผน จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ปฎิเสธการเข้าร่วมประชุมดังกล่าว เนื่องจากยังคงติดปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ
ประเด็นสุดท้ายที่ต้องติดตาม คือ จีนส่งทูตพิเศษเจรจาสันติภาพยูเครน โดยมีนายหลี่ ฮุย อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำรัสเซียจะมีการเดินทางเยือนยูเครน รัสเซีย โปแลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ในยูเครน แต่ก็ยังไม่มีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีปูตินแต่อย่างใด ซึ่งจีนนับว่าเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญและมีอำนาจต่อรองสูงกับรัสเซีย เนื่องจากจีนมีความสำคัญทางด้านการค้ากับรัสเซียค่อนข้างมาก โดยเฉพาะหลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน มูลค่าการซื้อขายระหว่างจีนและรัสเซียก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างจีนและรัสเซียในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 53.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าช่วงเดียวกันในปี 2565 กว่า 38.7% โดยการส่งออกจากจีนไปยังรัสเซียมีมูลค่า 2.407 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47.1% จากปีที่แล้ว และการนำเข้าจากรัสเซียเพิ่มขึ้น 29.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 32.6% จึงมีการคาดการณ์ว่าในปีนี้การค้าระหว่างจีนกับรัสเซียจะสูงถึง 2.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และรัสเซียอาจแซงหน้าสหรัฐ ในฐานะคู่ค้าชั้นนำของจีนภายในปี 2573 อย่างไรก็ตาม สหรัฐยังคงไม่เชื่อว่าจีนจะสามารถเป็นตัวกลางได้อย่างเต็มตัวในการเจรจาสันติภาพนี้
แท่งเทียนของราคาทองคำรายวัน เกิด Three black crows ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ประกอบกับสัญญาณจาก indicator จาก MACD อ่อนกำลังลง จึงคาดว่าระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาประเด็นเพดานหนี้สหรัฐหากคลี่คลายลง จะส่งผลให้ราคาทองปรับตัวลงแรง